ในช่วงไว้ทุกและไว้อาลัยแบบนี้ที่มีกำหนดการ 30 วัน ในสายอาชีพบันเทิงด้านต่างๆต้องหยุดและงดทำกิจกรรมทั้งหมดเพื่อไว้อาลัย แต่ตอนนี้ก็ผ่านมา 15 วันแล้ว ในสายของนักดนตรีอาชีพนั้นแน่นอนว่าทุกคนก็มีความเศร้าโศกเสียใจเช่นเดียวกับประชาชนชาวไทยท่านอื่น ในขณะเดียวกันเราต้องปรับตัวอย่างไรกันบ้างเพื่อความอยู่รอด แน่นอนครับว่าต้องมีเสียงครหาว่ารอไม่ได้เชียวหรือ ตอนมีทำไมไม่เก็บเงิน หรือสารพัดข้อที่จะนำมาติ พวกเราก็ข้อน้อมรับไว้ครับ แต่ชีวิตเราต้องดำเนินต่อไป จะทำอย่างไร ปรับตัวยังไงในสถานการณ์แบบนี้ ที่นักดนตรีอาชีพควรรู้และเข้าใจ นี่อาจเป็นแง่หนึ่งเท่านั้นของผมที่อยากนำเสนอครับ เชื่อว่าทุกอย่างต้องมีทางออกที่ลงตัว
วิธีการปรับตัวของนักดนตรีอาชีพ ในสถานการณ์ปัจจุบัน
สิ่งที่เราได้ยินจากการประกาศจากทางรัฐบาลที่ว่า
- งดดนตรี 30 วัน
- งดเล่นดนตรีในสถานที่เปิด
- งานเทศกาลต่างๆงดดนตรี และการแสดง
- แต่งชุดดำไว้อาลัย
- ถ้าจะเล่นให้เล่นในสถานที่ปิด
- ห้ามเปิดเกินเวลาที่กำหนด
- หากเห็นว่าเลี่ยงไม่ได้ ให้เห็นตามสมควร กาละเทศะ
ครับเราได้ยินมาแบบนี้ เราควรปรับตัวกันอย่างไร เพราะสถานการณ์ปัจจุบันนี้ของร้านอาหารที่มีดนตรีของไทย จะเป็นสถานที่แบบเปิดถึง 80% ซึ่งก็อาจผิดต่อกฏหมายก็ได้ ทำให้ผู้ประกอบการณ์กลัวจะมีปัญหาเลยเปิดร้านตามปรกติ แต่ไม่เอาวงดนตรีมาเล่น แต่ถ้าร้านไหนเล่นก็จะได้เล่นเฉพาะหัวค่ำ ร้านส่วนใหญ่จะงดรอบดึกยาวไปเลยอย่างไม่มีกำหนด อีกทั้งคำว่าสถานที่ปิดก็ไม่มีข้อกำหนดที่ชัดเจนว่าคืออะไร
สิ่งที่นักดนตรีควรทำในตอนที่ว่างงานนี้ เพื่อไม่ให้เวลาเสียเปล่า ซึ่งตอนนี้ผมทำอยู่
- ฝึกซ้อมดนตรีที่ตัวเองเล่น ให้เวลากับตัวเองในการฝึกซ้อมมากขึ้น คิดซะว่าเรามีเวลาซ้อมทั้งเดือน(คิดในแง่ดี)
- หางานเสริมทำเลี้ยงชีพตัวเองแม้งานหลักอย่างดนตรีจะไม่ได้เล่นเราก็ควรหางานเสริมที่ถนัด เช่นผมเองก็ช่วยครอบครัวขายเครป
- หาเวลาเรียนรู้เรื่องที่อยากรู้ อยากศึกษาเพิ่มเติม ได้ทำสิ่งใหม่ๆ ได้ทดลองอะไรที่ไม่เคยได้ทำ
- ได้ลองใช้ชีวิตแบบปรกติของมนุษย์ ตื่นเช้า นอนค่ำ ตามเวลา
- มีเวลาออกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา ให้เวลาในการพักผ่อนร่างกายและจิตใจ
- ฟังเพลงเยอะๆ เข้าใจสิ่งที่ฟัง แกะเพลงที่เรายังไม่เคยเล่น หาแนวเพลงใหม่ๆที่ชอบ
- ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและคนที่เรารักมากขึ้น มากขึ้น
แต่……กับงานแต่งงานและงานอีเว้นท์ที่ต้องเล่นในช่วงนี้ควรทำยังไง ทำตัวแบบไหน วางตัวยังไงเมื่อต้องทำงานในช่วงแบบนี้
เพิ่มช่วงที่ควรจะต้องเล่นเพลงพระราชนิพนธ์เยอะๆหน่อยในการโชว์แต่ละครั้ง เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่เก้า แขกที่มาฟังจะได้รับความรู้สึกที่ดีกลับไปด้วยครับ
แต่งตัวสุภาพ ไม่ฉูดฉาด เรียบง่าย ไม่หวือหวา พอเป็นพิธีการ แต่ถ้างานไหนที่ต้องการสีสด สีที่นอกเหนือจากสีดำ ให้พวกเราติดริบบิ้นดำไว้ด้วยจะดีมากครับ
เพลงที่เล่นในงานไม่ใช้เพลงเร็ว ที่เนื้อหาสนุกสนานจนเกินไป ควรเป็นเพลงกลางๆ เนื้อหาดี แต่ถ้าในกรณีที่เป็นแบบ Party ต้องเน้นย้ำลูกค้าว่าถ้าเป็นงานแบบ Party ควรเล่นในสถานที่แบบปิด Private จำนวนคนไม่มากน่าจะเหมาะสมที่สุดตามนโยบายของรัฐที่แจ้งมา
เครื่องเสียงก็เน้นชุดเครื่องเสียงที่ฟังชัดครบทุกย่าน ไม่ดังกระแทกมากเกินไป เพราะเพลงที่เล่นไม่ใช่แนวสนุกสนาน แต่เป็นการสร้างบรรยากาศในงานให้ออกมาสมบูรณ์ เช่นทางวงเราจะมี Bose L1 เครื่องเสียงออกงานที่ดีที่สุดเหมาะกับบรรยากาศของเพลงที่เล่น นุ่มนวลและสามารถฟังได้ครบทุกย่านเสียง
สำรวมทั้งกริยา มารยาท บนเวที เพราะนักดนตรีจะเป็นที่จับตามองต่อการกระทำขณะอยู่บนเวที
ถ้างานเป็นสถานที่แบบเปิด ควรเล่นแบบพอให้ได้ยินชัด อย่าให้กระแทกหรือมี dynamic เยอะจนเกินไป เพลงฟังสบาย ผ่อนคลายสร้างบรรยากาศ ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ แต่ถ้าเป็นสถานที่ปิดเราสามารถเล่นเพลงแบบไหนก็ได้ โดยดูรูปแบบตามความความเหมาะสมของสถานที่และแขกที่มางาน ถ้ามีผู้ใหญ่มากควรเน้นเพลงเก่า ร่วมสมัย เพลงใหม่ๆที่ไม่แรงมาก
เคล็ดลับเล็กน้อยอันนี้เอามาฝากเพื่อนๆพี่ๆน้องนักดนตรี และลูกค้าวงดนตรีทุกท่านครับ ไม่ต้องกลัวว่าวงดนตรีจะสร้างความไม่เหมาะสมกับงานในช่วงนี้ ซึ่งความจริงแล้วสามารถมีวงดนตรีได้ครับ แต่เราแค่ปรับอารมณ์ของเพลงให้เบาลงไม่แรงนัก ฟังสบาย ไม่เศร้าจนเกินไป สร้างบรรยากาศในงาน
ซึ่งในช่วงเวลาแบบนี้วงดนตรีที่กลับมาได้รับความนิยมสูงสุดคือ เพลงเปียโนหรือคีย์บอร์ดที่เล่นเพลงบรรเลงในงาน ซึ่งสามารถเล่นเพลงบรรเลงสร้างบรรยากาศในงาน เพลงพระราชนิพนธ์ ที่เหมาะกับงานทุกงานเป็นอย่างมาก เป็นการเดี่ยวเปียโนแบบบรรเลงตั้งแต่ต้นจนจบ งานออกมาสวยงาม พร้อมเสียงบรรเลงเปียโปเพราะๆ ก็เป็นหนึ่งตัวเลือกในการใช้วงดนตรีที่น่าสนใจในช่วงเวลาแบบนี้ซึ่งทำให้งานไม่เงียบหรือหดหู่จนเกินไปครับ
ลองดูตัวอย่างของเพลงบรรเลงเปียโนที่เหมาะกับบรรยากาศในช่วงนี้ครับ
by. iHearBand