สวัสดีปีใหม่ไทย (ล่วงหน้า) ทุกคนนะคะ
วันนี้เป็นเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวกับดนตรีเลย แต่เป็นสิ่งหนึ่งที่ทุกคนใน iHearband ถนัด นั่นก็คือ … การกิน!!!!!
ด้วยความที่ว่า ทุกคนใน iHearband ชอบไปกินนู่น กินนี่ แล้ว hashtag #iHearFoodWar มายั่วสมาชิกในวงตลอด
วันนี้ … แค้นที่เคยสะสม กำลังจะถูกสะสางงงงง..!! วะฮะฮะฮ่าาา!! (ยืนเท้าสะเอวหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ)
แพทจะพาทุกคนไปร้าน Sushi Hana ค่ะ ร้านนี้มีสาขาที่พระราม 3 สาขาที่แพทไปลองของคือ สาขาที่ 2 คือ สาขาบางนา
แพทโทรไปจอง ตอน 3 ทุ่ม เพราะอยากไปกินบรรยากาศแบบคนไม่พลุกพล่าน
แผนที่จากทางร้าน https://www.facebook.com/SushiHanaThailand
[googlemaps https://maps.google.com/maps/embed?pb=!1m18!1m12!1m3!1d242.29599903169947!2d100.63750595031492!3d13.673811387653314!2m3!1f0!2f0!3f0!3m2!1i1024!2i768!4f13.1!3m3!1m2!1s0x311d5fe605b14ab5%3A0x300df5face03080f!2sBang+Na-Trat+23!5e0!3m2!1sen!2sus!4v1397068981500&w=600&h=450]
เอาแผนที่แบบ google map ไป จะได้ไม่หลงกัน ^^
Sushi Hana สาขาบางนาเพิ่งเปิดได้แค่ 1 อาทิตย์ค่ะ จัด Promotion กระชากใจขากินจุแต่กระเป๋าอย่างเราๆมาก
Promotion Otoro, Chutoro และ Uni ลด 50%!! และ 20% Off ทุกเมนู (ยกเว้นเครื่องดื่ม)
ทริปกินครั้งนี้ ลากน้องเล็กของวง แม็ก @sakaruch มาร่วมชะตาด้วยกัน
ลุยกันเลยดีกว่า!
บรรยากาศหน้าร้าน สามารถจอดรถไว้ที่ร้านล้างรถข้างๆได้ค่ะ
เข้ามาในร้าน มีที่นั่งหน้า Counter กับโต๊ะ วันนี้ขอจองที่หน้า Counter อยากคุยกับ Chef + อยากเห็นเค้าปรุงต่อหน้าเราด้วย 🙂
Menu สีสันสดใส มีชื่อไทยและภาษาอังกฤษ ราคา และอาหารแนะนำต่างๆด้วย
ที่นี่บริการชาเขียวเย็นฟรีนะคะ แต่ชาเขียวร้อนไม่ฟรี
แต่เราอยากกินร้อนๆค่ะ เพราะ Sushi เป็นอาหารที่เย็น กินชาเขียวร้อน ปรับอุณหภูมิในร่างกายได้ดีกว่า 🙂
แต่ก็ขอเชียวเย็นเค้ามาด้วยค่ะ อยากชิมดู 😀
ชาเขียวร้อนโอเคเลยค่ะ เพียงแต่พอก้นๆกา จะขมจนลิ้นชาไปเลย 555
อ้อ มี QR Code ให้ สแกนด้วยค่ะ 🙂
ไม่ต้องรีรอ สั่งเลย!
ร้านมี ออเดิร์ฟ บริการด้วยค่ะ เป็นปลาหมึกคลุกวาซาบิ , ยำสาหร่ายโรยไข่กุ้ง และ ถั่วแระญี่ปุ่น
เปิด Menu สิ่งที่อยากกินมากเลยก็คือ Engawa Hana
มันก็คือเอ็นงาวะเผาแล้วห่อแซลม่อน+ทูน่า โรยด้วยไข่ปลาทูน่า ถือเป็น Signature ของร้านเลย
ถัดมา จะเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก Otoro!!!!
จัดต่อกันเลย Salmon Otoro คือแซลม่อนส่วนท้องย่างไฟค่ะ
รูป เรียงถามอธิบาย ขวาไปซ้าย
สังเกตว่าเค้าจะให้เนื้อปลาแบบไม่งกเลย วางบนข้าวไม่พอ ยังวางบนตัวปลาเพิ่มมาให้อีก
เหมือนได้กินทั้ง Sushi และ Sashimi ในคำเดียว
อ้อ ที่นี่ สั่งเป็นคำนะคะ 1 คำ 1 ชิ้น
ที่นี่ Sushi ส่วนใหญ่จะทา Wasabi มาแล้วนะคะ ถ้าไม่ทาน บอก Chef เค้าก่อนได้
ปกติแพทไม่กิน Wasabi แต่ของที่นี่ไม่ฉุนมาก กำลังดีค่ะ กินง่าย (งงเหมือนกันว่ากินได้ไง 555)
ต้องออกตัวเลยว่าเป็นครั้งแรกของแพทและแม็กที่ได้กิน Otoro
เคยอ่านมาแต่ในการ์ตูนว่า มันจะละลายในปาก ละลายในปาก ละลายในปาก โอ้ว ฟิน สุขี อะไรประมาณนี้
แต่ไม่เคยได้ลิ้มรสสักทีว่ามันเป็นยังไง
ทันทีที่เข้าปาก … อุแม่เจ้า … ละลาย! มันละลาย! มันละลายจริงๆ! น้ำตาจะไหล
ซึ้งและอิ่มเอมกับสุนทรีย์รสอยู่สักพักนึงเลย 5555
ลืมถ่ายรูปคู่กับ Hi-Light ซะงั้น กินไปหนึ่งคำ เพิ่งนึกได้
ต่อด้วย Salmon Otoro ค่ะ ทาง Chef นำมาบากให้ทานง่าย ลนไฟเอาความมันออกไปนิดนึง
แล้วราดด้วยมายองเนสกับซอสหวาน โรยด้วยกระเทียมเจียวเบาๆ
โอ๊ยยย … มันเข้มข้นมาก ชิ้นนี้ @Sakaruch ถูกใจ จนต้องขอเบิ้ลเลยค่ะ 55555
ส่วน Engawa Hana นี้ ชิ้นใหญ่มากกกกก Chef ให้แบบไม่กลัวขาดทุนเลย
ถึงกับต้องขอวางตะเกียบแล้วใช้มือกันเลย 😀 (ร้านเอา ช้อนส้อมมาให้ด้วยค่ะ)
Engawa เอามาลนไฟ ตัว Salmon+Tuna มาเอาคลุกกับซอสสลัดอะไรสักอย่างแล้วโรยด้วยไข่ปลาแซลมอนแบบพูน
เพลิดเพลินมากค่ะ เคี้ยวกรุบๆกรอบๆ ไข่ปลาแซลม่อนเติมรสให้ Engawa ได้อร่อยขึ้นเยอะเลย ชอบมากๆๆ
ยัง ยัง … ยังไม่หมด ระลอก 2 สั่งของมาล้างปากหน่อยนึง
Set เมื่อกี้เข้มข้นมาก
Set นี้เลยค่อนข้างจะสดชื่นมากกว่า
มี Hokkikai (หอยปีกนก) ,Tamagoyaki (ไข่หวาน) และ Ebiko (ไข่กุ้ง)
ขอแนะนำว่า Ebiko ที่นี่อร่อยมาก มันไม่เหมือนที่ๆเคยกินเลย มันกรุบๆ เค็มๆ ชอบมากๆค่ะ
(น่าจะเป็น Ebiko แท้)
แต่ @sakaruch บอกเฉยๆ เพราะสาหร่ายไม่โดน ไม่กรุบกรอบ และไม่ค่อยหอมเท่าไร เลยไม่ได้เบิ้ล
Hokkikai กับ Tamagoyaki ทำได้ดีแบบ มาตรฐานค่ะ เลยไม่ได้สั่งต่อ
เสียดายว่าวันนี้ Chuutoro หมด TT เลยสั่ง Otoro มาอีกคนละคำ
แต่คราวนี้ขอให้ Chef จัด Special มาให้หน่อย พี่ Chef ใจดี
เลยจัดการเผาไฟให้น้ำมันออกนิดนึงแล้วโรยด้วยเปลือกส้มยูซุค่ะ
นี่แหน่ะ เผาไฟเลย
บรรจงวาง
แท่น แทน แท๊นนน …
ออกแนวเสต็ก Otoro แบบกึ่งดิบกึ่งสุก
เปลือกส้มยูซุช่วยตัดความเลี่ยนได้ดี มีรสเปรี้ยวทิ้งท้ายไว้ล้างมันนิดๆ ^^
แต่ชอบแบบธรรมดามากกว่าค่ะ
คราวนี้สั่ง Engawa กับ Salmon แบบธรรมดามาค่ะ
ตรงนี้ @sakaruch ขอ Recommend เลยว่า Salmon อร่อยมากกกกกกก
เค้าบากให้ทานง่ายและมันมีรสชาติแฝงอยู่ก็ไม่รู้คืออะไร แต่แพทไม่ได้สั่งค่ะ นางเพิ่งมาบอกตอนจะกลับแล้วว่าอร่อยมากๆ (ฮ่วย!)
Engawa ก็โอเคค่ะ แต่ชอบแบบ Engawa Hana มากกว่า อร่อยเต็มคำ สะใจดี วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า
ชิ้นต่อไปคือ Salmon Otoro แซลม่อนส่วนท้องติดมันอีกเช่นเคย แต่คราวนี้ไม่มีซอสหวานราด แต่ Chef โรยไข่กุ้งมาให้แทน ^^
ลองสั่งปลาที่ไม่เคยกินมาดู
ตัวนี้เป็น Itoyori หรือปลาทรายแดงค่ะ
Chef บอกว่า เค้าลนไฟที่หนัง ให้มันกรุบๆหน่อย แล้วก็โรยด้วย หอมซอยญี่ปุ่น เหยาะโชยุ 1 หยด โรยพริกป่นเบาๆ แล้วปิดท้ายด้วยส้มยูซุ
รสชาติสดชื่นดีค่ะ เป็นปลาเนื้อขาวที่ไม่คาว
วันนี้ทางร้านได้หอย Hotate เป็นๆมา (หอยเชลล์) เพิ่งลงจากเครื่องเลย ตัวใหญ่เบิ้มมาก
Chef บอกว่าทำได้ 2 แบบ Sashimi กับเอาไปย่างเนย
แต่ @sakaruch กินหอยไม่ได้ เลยพับโครงการนี้ไป
แต่โชคดีว่ามีโต๊ะอื่นสั่ง (เย้!) ก็เลยได้ดูเมนูไปด้วยเลย ^^
หัวหน้า Chef บรรจงสไลด์เนื้อหอย
แอ่น แอน แอ๊นนนนนน… สวยมากกก !
ทางร้านมี Service ให้ด้วยค่ะ ^^ Chef นำทูน่ามายำแล้ววางบนแตงกวา ออกแนวลาบ แต่เป็นลาบลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น
โรยด้วยหอมแดงแ ผักชี และพริกสด
อร่อยดีค่ะ สดชื่น ทานแล้วไม่เลี่ยน
ร้านมีซุปบริการนะคะ เป็นซุปสาหร่ายวากาเมะ
อันนี้แพทชอบมาก 5555 สามารถเติมได้เรื่อยๆ ที่สำคัญ ฟรี! (Yeahh!)
แอบคุยกับ Chef มา Chef บอกว่า ซุปอาจจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อาจจะเปลี่ยนทุกๆ 3 เดือน
กินอิ่มกันแล้ว @Sakaruch
ทานเสร็จมีผลไม้เสิร์ฟ เป็นแตงโม ราดด้วย Syrup (มั้งคะ) หวานๆเย็นๆ ชื่นใจ ^^
ถึงเวลาที่ทุกคนลอยคอ .. เอ๊ย! รอคอย นั่นคือเช็คบิลนั่นเอง
รวมทั้งสิ้น ….. 1,462 บาท!!
ราคาไม่แพงเลยค่ะ เมื่อเทียบกับบริการ และคุณภาพของอาหารที่ได้รับมา 😀
สังเกตสีแดงๆคือ ลดราคาท้ายบิลให้ 20%
ที่สำคัญ ไม่มี Vat และ Service Charge
ซึ่งแพทว่าดีมาก เมื่อเทียบกับร้านที่เก็บ Service และ Vat แยก ซึ่งดูเอาเปรียบลูกค้ามากๆ
ก่อนกลับมีสนทนากับ Chef นิดนึง Chef บอกว่า หากจะจัดงานวันเกิด งานรับปริญญา หรือ โอกาศพิเศษอะไรก็ตาม สามารถบอกกับทางร้านได้
ทางChef จะจัดเค้ก Sushi ให้ (อันนี้กรี๊ดมาก เพราะอยากลองกินสุดๆ 55)
ทางร้านจะรับปลามาจากตลาด Tsukiji โดยตรง บินส่งมาทุกๆวันอังคารและศุกร์ ต้องไปรับที่สุวรรณภูมิ
ดังนั้นโชคดีมากที่มากินวันนี้ เพราะปลาเพิ่งถึงร้านเมื่อคืนช่วงดึกๆ 😀
เม้ามอยกับ Chef ใหญ่เลย
ทิ้งท้ายด้วยนามบัตรของทางร้าน ที่คุณนัส ไม่แน่ใจว่าเป็นเจ้าของรึเปล่า ^^”
เพราะเมื่อเช้าโทรมาจองที่แต่ไม่มีคนรับสาย เค้าเลยเอานามบัตรมาให้พร้อมเขียนเบอร์ส่วนตัวให้
หากในกรณีที่โทรเข้าร้านแล้วไม่มีคนรับสาย
สาขาพระราม3 : 02-295-2380
สาขาบางนา : 02-396-1511
เบอร์คุณนัส ตามนามบัตรเลยจ้า
ก่อนจะลากันไป ทิ้งท้ายรูปภาพจาก Chef รูปหล่อของร้าน
ฝั่งซ้ายคือหัวหน้า Chef ที่ประจำการสาขาบางนา
ขอบคุณ @sakaruch ที่ออกมาร่วมผจญภัยการกินในครั้งนี้
“MAY THE FOODS BE WITH YOU”
อิ่มจัง
แพทซิล่า